5 ขนมไทยโบราณหายากที่คนรุ่นใหม่ควรรู้จัก

HOMEPAGE


5 ขนมไทยโบราณหายากที่คนรุ่นใหม่ควรรู้จัก



วงในอาสาพาเหล่าออเจ้าย้อนเวลาตามหาเรื่องราวขนมไทยโบราณหากินยาก อีกหนึ่งมรดกล้ำค่าของสยามประเทศที่คนรุ่นใหม่ควรรู้จัก
 • 11 มิ.ย. 2018 · โดย Hearbest Tastegood
ถ้าพูดถึงขนมไทยโบราณหลายคนอาจจะเคยผ่านตาจากละครพีเรียดทางทีวี หรือลองลิ้มชิมรสความหอมหวานตามร้านขนมไทยมาบ้างแล้ว อาทิเช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมลูกชุบ และอื่น ๆ แต่รู้หรือไม่ว่านั่นเป็นเพียงบางส่วนของขนมไทยในสมัยโบราณเท่านั้น อันที่จริงยังมีขนมไทยโบราณอีกหลายชนิดที่เรียกได้ว่าเป็น rare item ที่หากินยากในสมัยนี้ บอกชื่อไปบางคนอาจจะไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ เอาล่ะ! วันนี้วงในจะพาเหล่าทุกคนเดินทางย้อนเวลาไปพบกับขนมไทยโบราณหากินยากกัน ณ บัดนี้


1เกร็ดน่ารู้ของ “ขนมไทยโบราณ”
ขนมไทยถือเป็นมรดกอันล้ำค่าที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น โดยในอดีตไม่ใช่คนทั่วไปที่จะสามารถกินได้ แต่จะกินได้ก็ต่อเมื่อมีงานนักขัตฤกษ์ หรืองานบุญสำคัญเท่านั้น ขนมไทยโบราณแต่ดั้งเดิมจะมีส่วนประกอบหลักแค่ 3 อย่าง ได้แก่ แป้ง กะทิ และน้ำตาลปี๊บซึ่งเป็นวัตถุดิบที่หาได้ง่ายตามท้องถิ่นและมีวิธีการทำขนมที่ได้รับความนิยม ได้แก่ การนึ่งและการต้ม


โดยในสมัยก่อนมีประเพณีที่มีชื่อเสียงและเกี่ยวข้องกับขนมไทยโบราณนั่นคือประเพณีกินสี่ถ้วย คือการกินขนมไทยกับกะทิเรียกกันว่า “ขนมสี่ถ้วย” จัดเสิร์ฟมาในสำรับเดียวกัน โดยกินกับน้ำกะทิอบควันเทียนเพื่อเพิ่มความหวานและกลิ่นหอมละมุน นิยมกินกันในงานมงคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานแต่งงาน เนื่องจากมีความหมายที่ดีงาม ประกอบไปด้วย

- ไข่กบ (เม็ดแมงลัก) หมายถึง มีลูกเต็มบ้านมีหลานเต็มเมือง
- นกปล่อย (ลอดช่อง) หมายถึง มีความรักลื่นไหล ไม่มีอุปสรรค
- นางลอย (ข้าวตอก) หมายถึง ความรักที่อยู่ในกรอบของประเพณีที่ดีงาม
- อ้ายตื้อ (ข้าวเหนียวดำ) หมายถึง ตัวแทนความรักที่หนักแน่น ไม่หวั่นไหว


กระทั่งในสมัยกรุงศรีอยุธยาได้มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขนมไทยอีกครั้ง โดยครั้งนี้ “มารี ตองกีมาร์” ชาวโปรตุเกส ได้นำเอาวิธีการทำขนมไทยในแบบฉบับของชาวตะวันตกเข้ามาประยุกต์กับการทำขนมไทย และนำเอา “ไข่ไก่” ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญเข้ามาใช้ด้วย ซึ่งทำให้ได้ขนมไทยที่มีสีเหลืองทองชวนรับประทาน ที่จึงเป็นเหตุผลที่ในยุคนี้มีขนมชนิดต่าง ๆ ที่ใช้ชื่อเรียกว่า "ทอง" อยู่มากมาย ได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ทองม้วน เป็นต้น


2ชนิดของ “ขนมไทยโบราณ” หายาก
อันที่จริงแล้วนอกจากขนมไทยหลายอย่างที่เรารู้จักกันดี ไม่ว่าจะเป็นทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ขนมลูกชุบ และขนมไทยอื่น ๆ อีกมากมายซึ่งสามารถหากินได้ในปัจจุบัน ยังมีขนมไทยโบราณอีกหลายชนิดที่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันทั้งในเรื่องของรูปลักษณ์และรสชาติ ซึ่งรับรองว่าหากเอ่ยชื่อขึ้นมาหลายคนอาจไม่เคยได้ยินมาก่อนก็เป็นได้ และนี่คือ 5 ขนมไทยโบราณหายากที่คนรุ่นใหม่ควรรู้จักเอาไว้

1. ทองพลุ
เป็นขนมที่นิยมใช้ในพิธีมงคลต่าง ๆ โดยคำว่า “ทอง” หมายถึงของที่มีค่า ส่วนคำว่า “พลุ” หมายถึงความเจริญรุ่งเรือง โดยดัดแปลงมาจากขนมเอแคลร์ของฝรั่งเศสที่ใช้วิธีการอบนั่นเอง ลักษณะของทองพลุจะเป็นก้อนกลมคล้ายหยดน้ำ สีเหลืองทอง ด้านในเป็นโพรง และมีผิวเรียบ สามารถใส่ไส้เพิ่มได้ ในปัจจุบันร้าน บ้านสุริยาศัย มีจัดจำหน่ายขนมทองพลุให้คนรุ่นใหม่ได้ลิ้มลอง

ชนิดของ “ขนมไทยโบราณ” หายาก
2. สัมปันนี
เป็นขนมมงคลใช้ในพิธีแต่งงาน โดยมีความหมายคือ การเป็นที่รัก เมื่อรับประทานเข้าไป เนื้อขนมจะละลายในปากมีรสหวานและหอมกลิ่นควันเทียน รูปร่างคล้ายดอกไม้มีสีสันสวยงาม มีทั้งสูตรกรอบและนุ่มให้เลือกรับประทาน และเช่นเดียวกับทองโปร่ง ขนมไทยโบราณชนิดนี้สามารถหาซื้อได้ที่ร้าน ขนมไทยเก้าพี่น้อง

ชนิดของ “ขนมไทยโบราณ” หายาก
3. ขนมกง
บางคนเรียกว่า “ขนมกงเกวียน” เป็นขนมไทยโบราณที่มีลักษณะเป็นวงกลมและมีเส้นพาดผ่านคล้ายกับล้อของเกวียน ซึ่งสื่อความหมายถึงการมีความเป็นอยู่อย่างเป็นสุข เปรียบเสมือนให้คู่บ่าวสาวได้ใช้ชีวิตเคียงข้างกันด้วยใจคอที่หนักแน่น มีความรักให้กันตลอดไปเหมือนกงล้อเกวียน และเปรียบได้กับธรรมจักร ขนมสามารถหาได้ที่ ร้านขนมบ้านพลอยหวาน
ชนิดของ “ขนมไทยโบราณ” หายาก

4. ทองโปร่ง หรือ ขนมหน้านวล
เป็นขนมไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณที่ดัดแปลงมาจากขนมโปรตุเกสในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นอีกหนึ่งขนมที่มีความหมายมงคลเช่นกัน ลักษณะของทองโปร่งคือ รูปทรงคล้ายเรือ มีสีเหลืองนวล กรอบนอก และด้านในต้องโปร่งมีฟองอากาศของน้ำตาลสีเหลืองอมส้ม เมื่อรับประทานใหม่ ๆ จะมีน้ำตาลเยิ้มออกมา สำหรับขนมทองโปร่ง หรือขนมหน้านวลนั้นในปัจจุบันก็ยังมีร้านขนมไทยชื่อดังอย่าง ขนมไทยเก้าพี่น้อง จำหน่ายอยู่

ชนิดของ “ขนมไทยโบราณ” หายาก
5. พระพาย
เป็นขนมที่ใช้ในพิธีแต่งงาน ใช้แป้งข้าวเหนียวนวดกับนํ้าดอกมะลิ ใส่สีต่าง ๆ เพื่อหุ้มไส้ที่ประกอบด้วยถั่วเขียวเลาะเปลือกที่บดละเอียด ผสมกับกะทิ และนํ้าตาลปั้นเป็นก้อนกลม ๆ เมื่อหุ้มเสร็จแล้วนํามาวางบนใบตองที่ตัดเป็นกลม ๆ เมื่อนึ่งสุกแล้ว พรมด้วยหัวกะทิ เชื่อกันว่าแป้งข้าวเหนียวที่ใช้หุ้มไส้ หมายถึงความเหนียวแน่นมั่นคง และความหวานของไส้คือความรักอันแสนหวาน โดยหาซื้อขนมชนิดนี้ได้จาก ร้านบ้านใน

ชนิดของ “ขนมไทยโบราณ” หายาก
3เคล็ดลับ “ตัก เติม ตกแต่ง” ไอศกรีมกินคู่ขนมไทยโบราณหายาก
ได้ทราบข้อมูลความเป็นมา พร้อมชนิดของขนมไทยโบราณหายากกันไปพอสังเขปแล้ว ทีนี้มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากนำไอศกรีมสมัยใหม่รสชาติไทย ๆ อย่างรสเผือก และรสรวมมิตรมา “ตัก เติม ตกแต่ง” คู่กับขนมไทยโบราณ หน้าตาและรสชาติจะเป็นอย่างไร แค่คิดก็สนุกแล้ว

1. “ทองพลุ” จับคู่กับ “ไอศกรีมรสรวมมิตร”
เป็นรสชาติที่ดีเกินคาด เหมือนได้กินไอศกรีมกับขนมเอแคลร์ของฝรั่งเศสยังไงอย่างงั้นเลย โดยไอศกรีมรวมมิตรจะช่วยเพิ่มรสสัมผัสที่ลงตัว และเติมเต็มไส้หวาน ๆ พร้อมเนื้อของลอดช่องและขนุนเพิ่มความหนุบหนับเคี้ยวเพลินทำให้ทองพลุมีรสชาติทีดียิ่งขึ้น


2. “สัมปันนี” จับคู่กับ “ไอศกรีมรสเผือก”
ด้วยรสชาติหวานและมีกลิ่นหอมของขนมสัมปันนี เมื่อนำมารวมกับไอศกรีมรสเผือกจะยิ่งช่วยเพิ่มความเข้มข้นและรสสัมผัสที่ดีให้กับขนมเมื่อรับประทานเข้าไป โดยเฉพาะช่วงที่ขนมสัมปันนีละลายในปากไปพร้อม ๆ กับเนื้อไอศกรีมเป็นอะไรที่ฟินมาก ๆ


3. “ขนมกง” จับคู่กับ “ไอศกรีมรสเผือก”
เพื่ออรรถรสในการรับประทานแนะนำให้ตัดแบ่งเป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ แล้วค่อยตักกินกับไอศกรีมรสเผือกที่มีหวานมัน เนื้อของขนมกงช่วยเพิ่มมิติให้กับไอศกรีมรสเผือกให้มีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น


4. “ทองโปร่ง” จับคู่กับ “ไอศกรีมรสรวมมิตร”
ทองโปร่งมีความคล้ายคลึงกับทองพลุตรงที่ด้านในโปร่งและมีรสชาติหวานจากน้ำตาลเคลือบอยู่ การได้ไอศกรีมรสรวมมิตรมารับประทานคู่กันช่วยให้ได้รสสัมผัสที่กลมกล่อมและมีเนื้อลอดช่องกับขนุนให้เคี้ยว


5. “พระพาย” จับคู่กับ “ไอศกรีมรสรวมมิตร”
ปิดท้ายการจับคู่ไอศกรีมรสรวมมิตรที่มีกลิ่นหอม ๆ ของกะทิ และมีเนื้อสัมผัสอย่างลอดช่อง และเนื้อขนุนรับประทานคู่กับพระพายขนมที่ขึ้นชื่อเรื่องความหอมของน้ำดอกมะลิเป็นการ mix & match ที่ดีและให้ความสุนทรีย์ในการกินได้เป็นอย่างดี


นอกจากขนมไทยโบราณหายากแล้ว ก็ยังสามารถนำขนมไทยอื่น ๆ อาทิเช่น ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง หรือลูกชุบมาจับคู่กับความสนุก “ตัก เติม ตกแต่ง” กับไอศกรีมสมัยใหม่ รสชาติดีอย่างไอศกรีม วอลล์ เทคโฮม ไม่ว่าจะเป็น รสรวมมิตร รสเผือก หรือรสชาติไหน ๆ ก็ทั้งฟินทั้งคุ้มค่า และถูกใจทุกคนในครอบครัวแน่นอน หาซื้อได้ง่าย ๆ ที่ 7-11 ซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป



ข้อมูลอ้างอิง: 

อรวสุ นพพรรค์. (2542). ขนมไทย.กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์โอเดียนสโตร์.

มณี ทองคํา. (2555). ตํารับขนมไทยชาววัง.กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์สื่อสุขภาพ.

นลิน คูอมรพัฒนะ. (2553). เส้นทางขนมไทย กําเนิดและวิวัฒนาการขนมไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึง ปัจจุบัน.กรุงเทพฯ: สํานักพิมพ์แสงแดด.

ขนมมงคลไทย. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://cooking.kapook.com/dessert/thai-dessert. สืบค้น 12 เมษายน 2559.

ขนมไทยทั้งหมด. (ออนไลน์). แหล่งที่มา : http://www.thaicookingrecipe.com/dessertall.html. สืบค้น 12 เมษายน 2559. อ่านต่อได้ที่ https://www.wongnai.com/food-tips/authentic-thai-dessert-you-should-know?ref=ct

cr.https://www.wongnai.com/food-tips/authentic-thai-dessert-you-should-know

ความคิดเห็น